Back to Top
ในชั้นเรียนวิชาประวัติศาสตร์ระดับประถมฯ หรือมัธยมฯ เหตุการณ์สงคราม
เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ ในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ มักถูกหยิบยกขึ้นมาปลุกเร้าความรักชาติ
ในฐานะตัวอย่างความอ่อนแอของผู้ปกครอง ความล้มเหลวของราชอาณาจักร
ตลอดจนความแตกสามัคคีของ “คนในชาติ” แต่ใน ๒๓๑๐ อวสานกรุงศรีฯ จะนำเสนอ
ข้อมูลและมุมมองใหม่ต่างจากที่รับรู้ เช่น กษัตริย์และขุนนางมิได้อ่อนแออย่างที่คิด
แต่พยายามป้องกันพระนครอย่างเต็มที่ บ้านบางระจันมิได้เป็นกลุ่มชาวบ้านที่
รวมตัวกันเองด้วยความรักชาติ (เพราะสมัยนั้นยังไม่มี “ชาติ”) แต่อาจอยู่ในเครือข่าย
ป้องกันพระนครของอยุธยา ที่สำคัญกองทัพอังวะเตรียมการเป็นอย่างดี
โดยใช้ยุทธศาสตร์ยุทธวิธีที่อยุธยาไม่เคยรับมือมาก่อน รวมถึงเมื่อ “กรุงแตก” แล้ว
ข้าศึกคงมิได้มีเวลาเผาทำลายเมืองได้มากนัก เพราะกองทัพถูกเรียก
ไปรับศึกจีนที่เข้ามาประชิด แต่ทว่าที่อยุธยาเหลือเพียงซากอย่างที่เห็น
ในอุทยานประวัติศาสตร์ คือผลงานของคนไทยเราด้วยกัน! และที่สำคัญที่สุด
หากไม่มีสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ ก็ย่อมไม่มีกรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์
และประเทศไทยอย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
เขียนบทวิจารณ์ของคุณเอง