Back to Top
อ่านจนแตก วรรณกรรม ความทันสมัย และความเป็นไทย
หากจะให้พยายามอธิบายการวิเคราะห์วรรณกรรมในงานของอาจารย์ทักษ์ ผมอยากเสนอว่างานของอาจารย์มีลักษณะเป็นการวิเคราะห์การเมืองวรรณกรรม มากกว่าจะเป็นการวิเคราะห์วรรณกรรมการเมือง หรือความคิดการเมืองในวรรณกรรม ดังที่มักจะพบในงานของนักรัฐศาสตร์หรือนักสังคมศาสตร์ที่หันมาสนใจใช้ตัวบทวรรณกรรมเป็นฐานข้อมูลของการวิเคราะห์ หากวัฒนธรรมคือการเมืองในความหมายกว้างสุด อันได้แก่ ชุดความสัมพันธ์เชิงอำนาจของคนในสังคม การศึกษาวัฒนธรรมในความหมายนี้จึงเป็นการศึกษาเพื่อทำให้ความเข้าใจความเป็นการเมืองของวัฒนธรรมที่ทำหน้าที่ผลิตชุดความสัมพันธ์เชิงอำนาจของคนในสังคม อันเป็นแนวทางที่นักวัฒนธรรมศึกษาหลากหลายสำนักล้วนให้ความสำคัญ เราอาจกล่าวได้ดุจเดียวกันว่าวรรณกรรมก็คือการเมือง ดังนั้นการเมืองของวรรณกรรมจึงมิได้จำกัดอยู่เฉพาะประเภทหนึ่งของวรรณกรรมที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการเมืองหรืออุดมการณ์ แต่หมายถึงตัววรรณกรรมเองนั่นแหละคือความเป็นการเมือง กล่าวคือกระบวนการสร้าง การเผยแพร่ การเสพ การตีความ การผลิตซ้ำวรรณกรรม ล้วนมีนัยยะทางการเมืองเรื่องความความสัมพันธ์เชิงอำนาจกำกับอยู่ทั้งสิ้น แม้ว่าวรรณกรรมนั้นๆ จะประกาศตัวว่าเป็นศิลปะบริสุทธิ์ที่ปลอดการเมืองโดยสิ้นเชิงก็ตามที เพราะในท้ายที่สุด ความพยายามที่จะทำให้วรรณกรรมปลอดจากการเมืองก็เป็นการเมืองชนิดหนึ่งเช่นกัน ผมคิดว่านี่คือนัยยะที่เราจะได้พบจากการอ่านบทวิเคราะห์วรรณกรรมในงานของอาจารย์ทักษ์ที่มุ่งมองความเป็นการเมืองของวรรณกรรม (คำนำโดย ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์)
เขียนบทวิจารณ์ของคุณเอง