Back to Top
ทำไมต้องหลังเหมา? และควรจะเรียกว่าเป็นประวัติศาสตร์จีน "หลังเติ้ง" มากกว่าหรือไม่? เมื่อ "เติ้ง เสี่ยวผิง" ขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประกาศนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศในปี ค.ศ. 1978 นั้น ประเทศจีนได้เปลี่ยนไปเป็นคนละประเทศโดยสิ้นเชิง จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ในยุคที่ "เหมา เจ๋อตง" เป็นผู้นำสูงสุด เติ้งนำเศรษฐกิจจีนเข้าสู่ตลาดโลกและเปิดรับการค้าการลงทุนจากต่างประเทศทุกประเทศ โดยไม่จำกัดอุดมการณ์ทางการเมือง ยกเว้นทุกประเทศที่จะค้าขายกับจีนต้องยอมรับในอุดมการณ์จีน
รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนหันมาส่งเสริมให้ประชาชนทำธุรกิจ ส่งเสริมการเติบโตของนายทุนแดง ซึ่งกลายมาเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนให้มีความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลกได้ในทศวรรษ 1990-2000 ทั้งหมดนี้แตกต่างจากยุคเหมาหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ในทางหลักการมิได้เปลี่ยนแปลงมาก ในสมัยผู้นำคนต่อ ๆ มา ไม่ว่าจะเป็น เจียง เจ๋อหมิน, หู จิ่นเทา หรือสี จิ้นผิง ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างมากถึงขั้นที่จะเปลี่ยนไปเป็นอีกประเทศหนึ่ง หนังสือเล่มนี้ว่า "ประวัติศาสตร์จีนหลังเหมา" และผู้เขียนได้เลือกจบยุค "หลังเหมา" นี้พร้อมกับการอุบัติขึ้นของโรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนหันมาส่งเสริมให้ประชาชนทำธุรกิจ ส่งเสริมการเติบโตของนายทุนแดง ซึ่งกลายมาเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนให้มีความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลกได้ในทศวรรษ 1990-2000 ทั้งหมดนี้แตกต่างจากยุคเหมาหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ในทางหลักการมิได้เปลี่ยนแปลงมาก ในสมัยผู้นำคนต่อ ๆ มา ไม่ว่าจะเป็น เจียง เจ๋อหมิน, หู จิ่นเทา หรือสี จิ้นผิง ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างมากถึงขั้นที่จะเปลี่ยนไปเป็นอีกประเทศหนึ่ง หนังสือเล่มนี้ว่า "ประวัติศาสตร์จีนหลังเหมา" และผู้เขียนได้เลือกจบยุค "หลังเหมา" นี้พร้อมกับการอุบัติขึ้นของโรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
นักเขียน | โกวิทย์ วงศ์สุรวัฒน์ และ วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ |
---|---|
สำนักพิมพ์ | สำนักพิมพ์ซิลค์เวอร์ม |
จำนวนหน้า | 268 |
เนื้อในพิมพ์ | ขาวดำ |
กว้าง | 145mm |
สูง | 210 mm |
ปีที่ออก | 2565 |
เขียนบทวิจารณ์ของคุณเอง